เคยสงสัยกันมั้ยว่า? ชื่อต่างๆบนฉลากเช่น “Ethiopia G1” หรือ “Kenya AB” นั้นหมายความว่าอย่างไร?
ในบทความนี้ เราจะพาท่านมารู้จักข้อมูลเกี่ยวกับการคัดเกรดสารกาแฟ จาก Ethiopia เพื่อให้คุณเข้าใจว่าคุณจ่ายเงินไปเพื่ออะไร?
Specialty Coffee Association (SCA) ได้มีการกำหนดระบบการคัดเกรดสารกาแฟขึ้นมาโดยพิจารณาจากข้อบกพร่องในสารกาแฟเพื่อเป็นมาตรฐานที่ชัดเจน ในระหว่างบันทึกข้อมูลการชิมกาแฟและการประเมินคุณภาพของกาแฟ
โดยการนำตัวอย่างสารกาแฟ 300 กรัม มาคัดแยกขนาดโดยใช้ตะแกรงสำหรับวัดขนาดเมล็ดกาแฟและกำหนดให้เมล็ดขนาดปกติคือเมล็ดที่มีขนาดตั้งแต่ขนาดกลาง (ขนาด 14 มม.) ไปจนถึงขนาดใหญ่ (ขนาด 18 มม.) *ถ้าพบสารกาแฟที่ไม่ผ่านช่องของตะแกรงได้ถึง 95% ถือว่าผ่านมาตรฐาน
ตัวอย่างสารกาแฟที่ได้รับการประเมินเพื่อหาข้อบกพร่อง จะได้รับการจัดให้อยู่ในเกรดตั้งแต่ 1 – 5 เกรดขึ้นอยู่กับจำนวนข้อบกพร่องที่พบในตัวอย่างสารกาแฟ 300 กรัม
เกรด 1 – กาแฟเกรดพิเศษ
ในตัวอย่างสารกาแฟพิเศษปริมาณ 300 กรัม อนุญาตให้มีข้อบกพร่องทั้งหมดได้ไม่เกิน 5 ข้อ ไม่อนุญาตให้มีข้อบกพร่องหลักและกำหนดให้สารกาแฟมีความชื้นอยู่ที่ 9-13%
กาแฟที่คั่วแล้วต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Aroma, Acidity, หรือ Mouthfeel และไม่ควรมี quakers.
เกรด 2 – กาแฟเกรดพรีเมี่ยม
ในตัวอย่างสารกาแฟพิเศษปริมาณ 300 กรัม อนุญาตให้มีข้อบกพร่องทั้งหมดได้ไม่เกิน 8 ข้อ อนุญาติให้มีข้อบกพร่องหลักบางอย่างได้และกำหนดให้สารกาแฟมีความชื้นอยู่ที่ 9-13%
กาแฟที่คั่วแล้วต้องมีคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านใดด้านหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น Aroma, Acidity, หรือ Mouthfeel และสามารถพบ quakers ได้ไม่เกิน 3 เมล็ด
เกรด 3 – กาแฟเกรดแลกเปลี่ยน
ในตัวอย่างสารกาแฟพิเศษปริมาณ 300 กรัม อนุญาตให้มีข้อบกพร่องทั้งหมดได้ไม่เกิน 9-23 ข้อ
ต้องมีเมล็ดขนาด Size 15 ขึ้นไปในปริมาณไม่ต่ำกว่า 50% ของตัวอย่างสารกาแฟ และอนุญาตให้มีเมล็ดที่มีขนาดต่ำกว่า Size 14 ได้ไม่เกิน 5%
อนุญาตให้มีข้อบกพร่องหลัก กำหนดให้สารกาแฟมีความชื้นอยู่ที่ 9-13% และสามารถพบ quakers ได้ไม่เกิน 5 เมล็ด
เกรด 4 – กาแฟต่ำกว่ามาตรฐาน
ในตัวอย่างสารกาแฟพิเศษปริมาณ 300 กรัม อนุญาตให้มีข้อบกพร่องทั้งหมดได้ไม่เกิน 24-86 ข้อ และเนื่องจากมีการพบข้อบกพร่องจำนวนในตัวอย่าง ผู้คัดเกรดบางรายจึงเลือกใช้ตัวอย่างในการประเมินเพียง 100 กรัมเท่านั้น
เกรด 5 – กาแฟนอกเกรด
คือกาแฟที่พบข้อบกพร่องมากกว่า 87 รายการ และจะไม่ถูกนำไปจำหน่ายในตลาดเชิงพาณิชย์
ซึ่งโดยปกติแล้วคุณจะสามารถสังเกต ข้อมูลนี้บนฉลากโดยการระบุต่อจากชื่อของภูมิภาคที่ปลูกกาแฟนั้นๆ เช่น Ethiopia Yirgacheffe G1